ของกินเล่น แก้หิว แถมไม่อ้วน

สาวๆที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก แต่ยังติดกินจุบจิบอยู่ น้ำหนักเลยไม่ลดสักที ลองหันมากินของดีๆ แคลอรี่ต่ำ และอยู่ท้อง กันดีกว่า การทานอาหารว่างระหว่างมื้ออาหารจะช่วยลดความหิวของคุณได้ หากคุณอดทนเก็บความหิวระหว่างมื้ออาหารไว้ เมื่อถึงเวลาทานอาหารมื้อถัดไปคุณจะไม่สามารถควบคุมความอยากอาหารได้ จึงทำให้คุณยิ่งทานอาหารมื้อหนักเยอะกว่าเดิม ดังนั้นอาหารว่างจะช่วยทำให้คุณอิ่มท้องและได้รับสารอาหารครบถ้วน วันนี้เราจึงได้รวมเอา ของกินเล่น แก้หิวไม่อ้วน มาฝากสาวๆกัน

1. Almonds อัลมอนด์
ผลการศึกษาจากต่างประเทศพบว่าคนที่เคี้ยวอัลมอนด์อย่างละเอียด (ไม่เกิน 40 ชิ้น) จะรู้สึกอิ่มนานกว่าคนที่เคี้ยวถั่วในจำนวนเท่ากัน นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยเติมเส้นใยโปรตีนและไขมันที่มีประโยชน์อีกด้วย
ประโยชน์ของ อัลมอนด์
- ให้พลังงานสูง ไขมันดี ทานแล้วไม่อ้วน อัลมอนด์ 1 เม็ด ให้พลังงาน 7 แคลอรี่
- ในบรรดาถั่วเปลือกแข็งทั้งหลาย อัลมอนด์มีสารอาหารมากที่สุด โดยเฉพาะโปรตีน จึงช่วยในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ถ้าเทียบตามน้ำหนักแล้วอัลมอนด์ให้โปรตีนสูงถึง 21.15%
- บำรุงประสาท บำรุงสมอง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ในอัลมอนด์มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนอย่างโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ในปริมาณสูง
- ช่วยเพิ่มเมตาโบลิซึม วิตามิน B6 ช่วยเพิ่มเมตาโบลิซึมในการเผาผาญโปรตีน ที่จะนำไปซ่อมแซมเซลล์สมอง วิตามิน B6 ยังช่วยเพิ่มขบวนการสร้างสารสื่อประสาท ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคพาร์กินสัน
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า 6 ที่มีความสำคัญในการลดการอุดตันของเส้นเลือด การรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยเพิ่มระดับ HDL ซึ่งเป็นไขมันดี และลดระดับไขมันเลวหรือ LDL มีงานวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่า หากรับประทานอัลมอนด์เพียงวันละ 2 หยิบมือจะช่วยลดระดับ LDL ได้ถึง 9.4%การรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยในเรื่องโรคหัวใจโดยตรง เมื่อระดับคอเลสเตอรอลในเลือดน้อย เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจก็จะทำงานได้ดี กรดโฟลิกในอัลมอนด์ยังช่วยในการสลายไขมันที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือด ช่วยลดการอักเสบของผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดมีความยีดหยุ่นดีขึ้น มีรายงานการวิจัยว่าการรับประทานอัลมอนด์สัปดาห์ละ 5 ครั้ง จะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจวายได้มากถึง 50 %
- ป้องกันโรคเบาหวาน เพราะจะไปช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
- อัลมอนด์มีโพแทสเซี่ยมสูง ซึ่งนั่นจะเป็นตัวช่วยลดปริมาณโซเดี่ยมในร่างกายและช่วยลดความดันเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง
- มีประโยชน์สำหรับผู้ชายสูงอายุ เพราะโพแทสเซี่ยมที่พบในปริมาณที่มาก จะไปทำงานร่วมกับสารตัวอื่นๆในอัลมอนด์ เพื่อช่วยรักษาระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterrone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศที่สำคัญที่สุดของผู้ชาย
- ช่วยลดการเกิดโรคกระดูกพรุน ทำให้ฟันแข็งแรง เพราะอัลมอนด์มีแคลเชี่ยมและแมกนีเซี่ยมอยู่ในปริมาณที่สูง
- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามิน B วิตามิน E และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่พบในเมล็ดอัลมอนด์แช่น้ำ และอัลมอนด์ยังมีไขมันอิ่มตัวในปริมาณที่ต่ำอีกด้วย
- ช่วยเรื่องผิวพรรณ บำรุงผม และเล็บ เพราะอัลมอนด์มีแร่ธาติ ไขมันและวิตามินอีสูง
- เหมาะสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์เพราะมีโฟเลตและสารที่ช่วยการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ และช่วยลดอัตราการเกิดภาวะผิดปรกติของทารกในครรภ์
- เส้นใยอาหารในอัลมอนด์ ช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานเป็นปรกติ จึงช่วยป้องกันโรคท้องผูก และลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้
- ธาตุสังกะสี และแร่ธาตุต่างๆจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุมกัน และช่วยป้องกันสมองจากสารอนุลมูลอิสระ
- กรดไขมันในโอเมก้า 3 จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทในสมองที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อสัญญานข้อมูลภายในเซลล์สมอง ทำให้เซลล์สมองทำงานได้ดีขึ้น ยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายจากความตึงเครียด
- ช่วยในการลดน้ำหนัก เมื่อทานอัลมอนด์เป็นอาหารว่างแทนขนมหวาน หรือของกินจุกจิก เพราะอัลมอนด์จะมีใยอาหารที่อุ้มน้ำได้เยอะ ทำให้รู้สึกอิ่ม เวลาที่ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนก็จะทำให้ไม่ค่อยหิว
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะสาร Alpha-tocopherol ที่พบในวิตามิน E เท่านั้น จึงช่วยชลอการเกิดริ้วรอย ทำให้แก่ช้า อัลมอนด์ 30 กรัม ประมาณ 1 กำมือ ให้วิตามิน E ในปริมาณ 65% ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- ข้อมูลจาก Nurses’ Health Study รายงานว่าผู้หญิงกว่า 80,000 คน ที่รับประทานอัลมอนด์เป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ออนซ์ สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคนิ่วได้มากถึง 25% นอกจากนี้แล้วมีรายงานว่าผู้ที่ทานวิตามิน E หรืออัลมอนด์เป็นประจำ จะลดอัตราการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ถึง 50%
- นมอัลมอนด์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่แพ้โปรตีนในน้ำนมวัว และเป็นทางเลือกสำหรับผู้ชายที่ไม่ต้องการดื่มน้ำนมถั่วเหลืองที่มี ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ที่ออกฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจน จนทำให้การผลิตอสุจิน้อยลง ทำให้มีลูกยาก

2. Grapes องุ่น
หากคุณมองหาผลไม้ทานเล่น องุ่นจัดว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียในของว่างสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก
ประโยชน์ของ องุ่น
- อยากมีผิวสวยให้เลือกองุ่นแดง มาเริ่มกันที่องุ่นแดงค่ะ สาวๆ อยากจะมีผิวสวยๆ ก็ต้องหมั่นรับประทานองุ่นสีแดงนะคะ เพราะองุ่นสีแดงมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง และยังมีสารแอนโธไซยานินที่ช่วยให้ระบบการทำงานของประสาทดีขึ้น! เมื่อระบบประสาทดีขึ้น การไหลเวียนของเลือดในร่างกายก็จะมีประสิทธิภาพตามไปด้วยค่ะ ส่งผลให้ผิวพรรณดีขึ้น ไม่เท่านั้นยังบำรุงสายตาอีกด้วยนะคะเนี่ย ป้องกันเนื้องอก ลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ประโยชน์ดี๊ดีและยังแก้โรคเหน็บชาได้อีกด้วย
- กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักให้เลือกองุ่นดำ สถาบันการแพทย์ Mayo Clinic แนะนำว่าถ้าต้องการลดน้ำหนักให้านองุ่นดำวันละครั้ง เพราะในองุ่นดำมีไฟเบอร์สูงมากๆ ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ง่าย ทำให้เรารู้สึกอิ่มและยังให้แคลอรี่ที่ต่ำอีกด้วย ทำให้เหมาะสุดๆ ที่จะเป็นผลไม้ยามบ่ายหรือยามท้องว่างของสาวๆ ที่กำลังลดน้ำหนัก นอกจากนั้นในองุ่นดำยังมีวิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม และใยอาหารสูง
- รักษาโรคด้วยองุ่นเขียว ในองุ่นสีเขียวมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เช่น คาเตชิน (Catechin) และเทอร์ซอทิลบีน (Ptersotilbene) ค่ะ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านโรคได้หลายชนิดมาก!!! ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคของระบบประสาท โรคอัลไซเมอร์ ลูคีเมีย และโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ช่วยให้หายหวัดได้ด้วยนะคะ

3. Chocolate ช็อคโกแลต
หลายคนอาจมองว่าช็อคโกแลตเป็นขนมทานเล่นที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่ “ดาร์คช็อคโกแลต” ในปริมาณที่พอเหมาะ (3-4ชิ้นเล็ก/วัน) จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ลดคอเรสเตอรอล แถมยังช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ของ ช็อคโกแลต
- สารฟีนอลในช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยป้องกันการอุดตันของลิ่มเลือด
- ช่วยให้การทำงานของเยื่อบุผิวดีขึ้น
- มีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรตไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็ก
- คาเฟอีนในช็อกโกแลตช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
- กระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินช่วยให้อารมณ์ดี ไม่หงุดหงิดและลดความเครียดลงได้

4. Popcorn ป๊อบคอร์น
หากวันไหนอยากกินขนมขบเคี้ยว ป๊อบคอร์นถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสาวๆรักสุขภาพ เพราะป๊อบคอร์นมีเส้นใยสูงมีไขมันต่ำและให้โปรตีนบางชนิด นอกจากนี้คุณยังสามารถทำได้เองง่ายๆ เพียงซื้อเมล็ดข้าวโพดจากซุปเปอร์มาร์เกต เทน้ำมันมะกอกเล็กน้อยบนกระทะ ใส่เมล็ดข้าวโพดแล้วปิดฝา รอให้ป๊อบหมดตักขึ้นแล้วใส่เกลือเล็กน้อย แค่นี้คุณก็จะได้ป๊อบคอร์นแคลอรี่ต่ำไว้ทานเล่นแล้วละค่ะ
ประโยชน์ของ ป๊อบคอร์น
- ปรับปรุงการย่อยอาหาร ข้าวโพดคั่วหรือป๊อปคอร์น เป็นธัญพืช ซึ่งธัญพืชจากธรรมชาติ มีเส้นใยอาหาร เช่นเดียวกับธัญพืชอื่นๆ ในแง่ของการย่อยอาหาร ป๊อปคอร์นช่วยย่อยได้ดี ไฟเบอร์จะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อลำไส้เรียบ และกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย และทำให้อาการท้องผูกลดลง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ระบบการย่อยอาหารจะแข็งแรงมากขึ้น
- ลดระดับคอเลสเตอรอล ไฟเบอร์หรือใยอาหาร สามารถตัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากผนังหลอดเลือด และหลอดเลือดแดง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม ลดโอกาสเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดในระบบหัวใจด้วย
- อุดุมด้วยโพลีฟีนอล โพลีฟีนอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในพืซ อนุมูลอิสระสร้างความเสียหายให้ร่างกายได้พอๆ กับโรคมะเร็ง ใครจะไปรู้ว่าในป๊อปคอร์นมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยดูแลเรื่องต่างๆ เช่น ริ้วรอย จอประสาทตา กล้ามเนื้อ ปัญญา กระดูก หรือสิ่งต่างๆ ที่เริ่มบ่งบอกถึงอายุที่มากขึ้น
- ควบคุมน้ำตาลในเลือด อีกบทบาทหนึ่งของไฟเบอร์ คือ มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดภายในร่างกาย เมื่อร่างกายมีปริมาณไฟเบอร์ที่มากพอ จะช่วยควบคุมการปล่อยและการจัดการระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินได้ดีกว่าคนที่ได้รับไฟเบอร์ต่ำ

5. Yogurt โยเกิร์ต
เติมช่องว่างทางโภชนาการด้วยโยเกิร์ตผลไม้ ที่จะช่วยให้แคลเซียมและเส้นใย รวมทั้งโปรไบโอติกที่เป็นโปรตีนอีกด้วย
ประโยชน์ของ โยเกิร์ต
- เหมาะแก่ผู้แพ้แลคโตส หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า โยเกิร์ตสามารถถูกย่อยในระบบทางเดินอาหารได้ง่ายกว่านม เนื่องจากในโยเกิร์ตอุดมไปด้วยแบคทีเรียชนิดดีที่จะช่วยให้แลคโตสในโยเกิร์ตถูกดูดซึมสู่ร่างกายได้ดีขึ้น การทานโยเกิร์ตจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้แลคโตสในนมวัว
- ช่วยในการย่อยอาหาร หากคุณกำลังประสบกับปัญหาการย่อยอาหาร แก้ท้องอืด การทานโยเกิร์ตเป็นของหวานหรือนำมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารมื้อหลักอาจช่วยคุณได้ เนื่องจากโยเกิร์ตจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นคุณควรทานโยเกิร์ตวันละหนึ่งถ้วยและพยายามเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรหวานน้อยและเป็นรสดั้งเดิมซึ่งจะดีต่อสุขภาพมากกว่า
- ควบคุมน้ำหนัก หลายคนที่กำลังอยู่ในช่วงไดเอท อาจไม่สามารถลดน้ำหนักตามเป้าหมายที่คิดไว้ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทั้งนี้การทานโยเกิร์ตอาจสามารถช่วยคุณได้ เนื่องจากแบคทีเรียชนิดดีในโยเกิร์ตสามารถช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและเร่งให้กระบวนการเผาผลาญทำงานเร็วขึ้น จึงมีส่วนช่วยให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
- ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่เจ็บป่วยง่าย การทานโยเกิร์ตเป็นประจำอาจเป็นตัวช่วยที่ดี เนื่องจากในโยเกิร์ตมีสารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย อย่างไรก็ตาม มีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ที่ทานโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวันมักมีร่างกายที่แข็งแรงและมีแนวโน้มที่จะป่วยน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ทานโยเกิร์ตทุกวัน
- ดีต่อลำไส้ การทานโยเกิร์ตสามารถช่วยบรรเทาอาการและเยียวยาลำไส้ที่กำลังติดเชื้อหรือมีปัญหาได้ อีกทั้งยังทำให้ลำไส้ฟื้นตัวได้เร็วและทำงานได้ดีกว่าเดิม จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโยเกิร์ตถึงถูกจัดให้เป็นอาหารที่สามารถต่อสู้กับอาการท้องเสียหรือการติดเชื้อบริเวณลำไส้ได้
- บรรเทาอาการของโรคเชื้อราในช่องคลอด สาว ๆ หลายคนอาจเคยประสบกับโรคเชื้อราในช่องคลอด ซึ่งสาเหตุมักเกิดจากการดูแลความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นไม่ดีพอ อย่างไรก็ดีการทานโยเกิร์ตสามารถช่วยจัดการกับปัญหานี้ได้ เนื่องจากโยเกิร์ตอุดมไปด้วยแบคทีเรียชนิดดีที่จะไปต่อสู้กับเชื้อราตัวร้าย นอกจากจะรักษาโรคดังกล่าวด้วยวิธีการทานแล้ว ก็อาจใช้โยเกิร์ตทาบนผ้าอนามัยชนิดสอดจากนั้นก็ใส่เข้าไปในช่องคลอดประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วจึงดึงออกมา
- อุดมไปด้วยแคลเซียม นอกจากนมจะเป็นอาหารที่เราทราบกันดีว่าเป็นแหล่งของ แคลเซียมชั้นยอดแล้ว โยเกิร์ตก็เป็นอีกหนึ่งในอาหารที่มีแคลเซียมสูงไม่แพ้กัน โดยที่แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จะช่วยให้คุณมีกระดูกที่แข็งแรงและลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้น
- ป้องกันการเกิดความดันโลหิตสูง คุณทราบหรือไม่ว่า การทานโยเกิร์ตสามารถช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากโยเกิร์ตจะช่วยกำจัดโซเดียมส่วนเกินในร่างกาย ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงไปด้วย ดังนั้นโยเกิร์ตจึงเป็นอีกหนึ่งอาหารทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังเป็นโรคความดันโลหิตสูง
- ลดคอเลสเตอรอล หากคุณชื่นชอบการทานอาหารที่มีไขมันสูงอย่างพวกของทอดทั้งหลายหรือแม้แต่บรรดาขนมหวาน คุณกำลังมีแนวโน้มที่จะมีระดับคอเลสเตอรอลที่สูง ทั้งนี้การทานโยเกิร์ตอาจช่วยคุณได้ เนื่องจากมีการค้นพบว่าแบคทีเรียชนิดดีในโยเกิร์ตสามารถช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลได้
- ดีต่อฟันและเหงือก หลายคนอาจประหลาดใจว่าการทานโยเกิร์ตจะดีต่อสุขภาพฟันได้อย่างไร ทั้งนี้โยเกิร์ตมีสรรพคุณช่วยในการป้องกันฟันผุได้ เนื่องจากมีกรดแลคติค (Lactic) ที่ช่วยปกป้องปากของคุณจากแบคทีเรียตัวร้าย นอกจากนี้กรดดังกล่าวยังดีต่อสุขภาพเหงือกอีกด้วย
และนี่ก็เป็น ของกินเล่น มากประโยชน์ กินแล้วไม่อ้วน แถมหาได้ง่ายตามท้องตลาดด้วย
รีวิวเกมสล็อตมาใหม่ FELINE FURY Play’n GO นำเสนอการผจญภัยของสล็อตวิดีโอในสัดส่วนที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ความบาดหมาง ในยุคกลางการล้อมขนาดใหญ่และแมว! Feline Fury แสดงให้เห็นถึงมหากาพย์ขนยาว
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : คอมพิวเตอร์สำคัญต่อวัยทำงานอย่างไร